วันศุกร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2562

ถ้วยตราไก่” เมืองลำปาง


ถ้วยตราไก่ เป็นถ้วยเก่าแก่ของลำปางรูปพรรณคล้ายๆ ชามก๋วยเตี๋ยว ข้างๆ ถ้วยจะเขียนเป็นรูปไก่ และนับเป็นถ้วยที่หายากเข้าไปทุกที เท่าที่เห็นมีขายตามร้านของเก่าหรือสวนจตุจักร ซึ่งราคาถ้วยใบเก่าค่อนข้างแพงบางใบมีราคาหลายพันบาท
เขลางค์นคร หรือ เวียงละกอน เป็นชื่อที่ใช้เรียกเมืองลำปางมาตั้งแต่ครั้งอดีต เริ่มแรกที่ปรากฏเรื่องราวของเมืองลำปางสรุปได้ว่าเขลางค์นครสร้างเมื่อ พ.ศ.1223 โดยเจ้าอนันตยศราชบุตรของพระนางจามเทวีแห่งเมืองหริภุญไชย ต่อมาได้สร้างเมืองขึ้นใหม่อีกเมืองหนึ่ง ใกล้ๆ กับเมืองเขลางค์นคร เรียกว่า “อาลัมภางค์นคร” เมืองทั้งสองนี้เป็นเมืองคู่กัน ชาวเมืองในสมัยนั้นจึงเรียกชื่อรวมกันว่า “เขลางค์อาภัมภางค์นคร” ต่อมาเรียกสั้
นลงเหลือเป็น “ลัมภางค์นคร” แล้วกลายมาเป็นลำปางนครในที่สุด

"การทำผลิตภัณฑ์"

การผลิตถ้วยตราไก่ของจังหวัดลำปางเริ่มต้นอย่างจริงจังเมื่อปี พ.ศ.2503 เมื่อชาวจีน 2 คนคือ นายซิวกิม แซ่กวอกและนายซิมหยู แซ่ฉิน ได้ร่วมกันตั้งโรงงานทำถ้วยตราไก่แบบเมืองจีนขึ้น นับเป็นโรงงานทำถ้วยตราไก่แห่งแรกของลำปาง ตามประวัติกล่าวว่า เมื่อครั้งที่ทั้งสองอยู่เมืองจีนเคยทำงานในโรงถ้วยชาม ซึ่งต้องทำงานทุกขั้นตอนตั้งแต่การล้างดิน ปั้นถ้วย เคลือบ เขียนลายและนำเข้าเตาเผา เมื่อเดินทางเข้ามาอยู่ในประเทศไทยก็ได้ทำงานในโรงงานเครื่องปั้นดินเผาที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเดิมโรงงานแห่งนี้จะทำเฉพาะโอ่ง กระถางต้นไม้ ต่อมาเจ้าของโรงงานต้องการทำถ้วยแบบจีน เพราะขณะนั้นเมืองจีนปกครองด้วยระบอบคอมมิวนิสต์ ถ้วยจากเมืองจีนจึงเข้ามาในเมืองไทยไม่มากนักและมีราคาแพง นายซิวกิมและนายซิมหยูจึงมาสมัครเข้าทำงาน ทั้งสองพยายามเสาะหาดินขาวแบบเมืองจีนจากที่ต่างๆ มาทดลองทำถ้วยชามแต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ จนครั้งหนึ่งได้สังเกตหินลับมีดจากเมืองลำปางที่ส่งไปขายที่เชียงใหม่มีเนื้อดินสีขาวคล้ายดินขาวเมืองจีน ทั้งสองจึงลองนำหินลับมีดที่มีเนื้อผุมาทดลองเผาดูและเกิดความคิดที่จะไปค้นหาว่าดินชนิดนี้มีอยู่มากน้อยแค่ไหน จึงได้ลาออกไปทำงานที่โรงงานทำอิฐที่จังหวัดลำปาง ทั้งสองพากันเดินทางไปขุดดินขาวด้วยความยากลำบาก แต่ยังไม่แน่ในคุณภาพของดินจึงได้ให้โรงงานเครื่องปั้นดินเผาย่าน กล้วยนํ้าไทพิสูจน์อีกครั้ง เมื่อรู้ว่าเป็นดินขาวที่ใช้ทำถ้วยชามแน่นอนก็กลับมาทดลองทำอีกและผลตามที่ต้องการ จึงคิดที่จะตั้งโรงงานทำถ้วยขึ้นแต่เนื่องจากไม่มีทุน จึงพากันกลับไปทำงานที่โรงงานในเชียงใหม่อีกครั้งเพื่อเก็บสะสมเงิน โดยใช้เวลาเก็บเงินอยู่ถึง 7 ปีจึงได้กลับมาตั้งโรงงานทำถ้วยตราไก่ขึ้นที่จังหวัดลำปางใช้ชื่อว่า “โรงงานถ้วยชามสามัคคี” ซึ่งนับเป็นโรงงานที่ทำถ้วยตราไก่โรงแรกในจังหวัดลำปาง
ถ้วยตราไก่ เป็นถ้วยเก่าแก่ของลำปางรูปพรรณคล้ายๆ ชามก๋วยเตี๋ยว ข้าง ๆ ถ้วยจะเขียนเป็นรูปไก่ และนับเป็นถ้วยที่หายากเข้าไปทุกที เท่าที่เห็นมีขายตามร้านของเก่าหรือสวนจตุจักร ซึ่งราคาถ้วยใบเก่าค่อนข้างแพงบางใบมีราคาหลายพันบาท

"โรงงานผลิตถ้วยตราไก่"

ปัจจุบันการผลิตถ้วยตราไก่นั้นแทบไม่มีอีกแล้ว โรงงานผลิตหลายโรงต้องปิดตัวลงเนื่องจากคนรุ่นใหม่ได้หันมาใช้ถ้วยชามที่ผลิตจากภาชนะอย่างอื่นจึงทำให้ถ้วยตราไก่ไม่เป็นที่แพร่หลายเท่าที่ควร แต่ยังมีคนกลุ่มหนึ่งที่รวมตัวกันจัดตั้งเป็นสมาคมขึ้นใช้ชื่อว่า “สมาคมเครื่องปั้นดินเผาจังหวัดลำปาง” ได้มีการอนุรักษ์การผลิตถ้วยตราไก่ขึ้น ซึ่งถ้วยตราไก่ที่เป็นของเก่านั้นกลายเป็นของหายาก จึงเป็นที่หมายปองของคนมีฐานะซื้อเก็บสะสมไว้ แต่ถ้วยตราไก่ที่ผลิตขึ้นในจังหวัดลำปางก็มีความใกล้เคียงกับถ้วยของเก่า อาจจะเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย เช่นที่ร้านศรีสวัสดิ์ ซึ่งเป็นโรงงานผลิตถ้วยตราไก่ที่มีอายุเก่าแก่ประมาณ 40 ปี โดยมีครูโยธี หรือที่ชาวบ้านในละแวกนั้นเรียกว่า “ครูศรี” เป็นผู้ก่อตั้งขึ้นจนกิจการเจริญก้าวหน้ามาถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน โรงงานแห่งนี้ก็ยังมีการผลิตถ้วยตราไก่อยู่


คุณกนกวรรณ โยธาวุฒิ ผู้สืบทอดการผลิตถ้วยตราไก่ เจ้าของร้านศรีสวัสดิ์เซรามิกลำปาง เล่าให้ฟังว่า “เดี๋ยวนี้ในลำปางไม่มีใครผลิตถ้วยตราไก่แล้ว มีเพียงที่นี่แห่งเดียวที่ยังคงอนุรักษ์การผลิตแบบดั้งเดิมคือจะใช้ฟืนเป็นเชื้อเพลิงในการเผา ส่วนลวดลายก็ยังคงใช้ลายแบบสมัยเก่าที่สำคัญทางร้านยังใช้คนเขียนลวดลายทั้งหมดอีกด้วย”
ถ้วยตราไก่ที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน อาจเทียบไม่ได้กับของเก่า แต่ฝีมือขนาดนี้ก็นับว่าดีที่สุดสำหรับปัจจุบัน ทั้งยังเป็นการอนุรักษ์แนวทางการเขียนไว้ในรูปลักษณะเดิม นอกจากนั้นถ้วยตราไก่ยังมีการพัฒนารูปแบบให้ทันสมัยยิ่งขึ้น เพราะทางร้านมีการผลิตถ้วยตราไก่ขนาดจิ๋วหลากหลายรูปแบบ เหมาะสำหรับนำไปเป็นของฝากของที่ระลึก

พิพิธภัณฑ์เซรามิคธนบดี


ตั้งอยู่เลขที่ 32 ถนนวัดจองคำ ตำบลพระบาท อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง ก่อตั้งโดย นายพนาสิน ธนบดีสกุล ทายาทรุ่นที่ 2 ของนายอี้ (ซิมหยู) แซ่ฉิน วัตถุประสงค์ของการตั้งพิพิธภัณฑ์ก็เพื่อรักษาเกียรติประวัติของอาปาอี้ (ซิมหยู) แซ่ฉิน ต้นตระกูลธนบดีสกุล ผู้ค้นพบแร่ดินขาว และก่อตั้งโรงงานเซรามิคแห่งแรกของลำปาง ซึ่งได้รวบรวมเรื่อง ราวและตำนาน  "ชามไก่แห่งธนบดี" หนึ่งเดียวที่ยังคงอนุรักษ์ประวัติศาสตร์แห่ง  ความภาคภูมิใจให้สมกับที่ลำปางเป็น เมืองแห่งเซรามิคของประเทศไทยภายในพิพิธภัณฑ์แสดงถึงประวัติของบริษัทในเครือธนบดี ต้นกำเนิดชามไก่ เซรามิคของเมืองลำปางและสาธิต การผลิตชามไก่แบบโบราณรวมถึงสามารถชมกระบวนการผลิตเซรามิคสมัยใหม่ได้อย่างใกล้ชิด เพื่อเป็นการอนุรักษ์ ศิลปวัฒนธรรมและส่งเสริมการเรียนรู้ด้านเซรามิคและศิลปะให้กับผู้ที่สนใจ นอกจากนี้ พิพิธภัณฑ์เซรามิคธนบดี ยังคงความเป็น เอกลักษณ์เฉพาะ เป็นต้น ฉบับและเป็นต้นกำเนิดชามไก่ของนครลำปาง ซึ่งมีโบราณสถานที่ทรงคุณค่าที่อยู่ภายในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็น เตามังกรโบราณ ชามตราไก่จิ๋ว ชามตราไก่ที่ยังคงผลิตและวาดลวดลายแบบดั้งเดิมไว้เป็นอย่างดี มีการแสดงนิทรรศการ เกี่ยวกับต้นกำเนิดชามตราไก่ ที่ถือเป็นศิลปะและวัฒนธรรมเชิง วิถีชีวิต ชุมชนที่งดงาม และบ่งบอกถึงความหลากหลายที่สืบทอดกันมา เนิ่นนานจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ พิพิธภัณฑ์เซรามิคธนบดียังเป็น แหล่งรวบรวมของ ข้อมูลที่เหมาะเป็นสถานที่การเรียนรู้ทุกระดับ ในเชิงประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรมอีกด้วย




ประวัติเซรามิกลำปาง

ภูมิประเทศส่วนใหญ่ของจังหวัดลำปางจะเป็นภูเขาสลับซับซ้อน และลักษณะดินจะเป็นดินขาวซึ่งเหมาะแก่การทำเครื่องปั้นเซรามิกผลิตภัณฑ์เซรามิกที่ผลิตจากดินที่นี่จึงมีคุณภาพสูง จุดเริ่มต้นของอุตสาหกรรมเซรามิกลำปางนั้นเริ่มจาก นายซิมหยูชาวจีนเมืองไท้ปูเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงทางด้านการผลิตถ้วยชาม เห็นชาวบ้านอำเภอแจ้ห่มใช้แร่ดินขาวมาเป็นหินลับมีด จึงชวนนายเซี่ยะหยุย แซ่อื้อ และนายซิวกิม แซ่กว๊อก ค้นหาแหล่งดินขาวเพื่อเอามาทดลองทำถ้วยชาม จนกระทั่งในราวปี พ.ศ. 2498 – พ.ศ.2499 ได้พบแหล่งดินขาวที่บ้านปางค่า อำเภอแจ้ห่ม จึงได้เริ่มทดลองผลิตเครื่องปั้นเซรามิก หลังจากนั้นในปีพ.ศ. 2500 ได้มีการจัดตั้งโรงงานเซรามิกแห่งแรกของจังหวัดลำปางชื่อว่า โรงงานร่วมสามัคคี หมู่บ้านป่าขาม อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง ตั้งแต่นั้นมาเซรามิกลำปางจึงได้มีการพัฒนามาเรื่อย ๆ จนถึงปัจจุบัน
และที่หลาย ๆ คนสงสัยกันว่าทำไมเซรามิกลำปางต้องเป็นสัญลักษณ์ไก่นั้น เพราะเดิมนั้นในยุคสมัยหนึ่งจังหวัดลำปางได้ชื่อว่าเมือง กุกกุฏนคร ซึ่งแปลว่าไก่ขาว เซรามิกลำปางในยุคแรก ๆ จึงนิยมวาดลวดลายไก่ลงไปในผลิตภัณฑ์ จนกลายเป็นสัญลักษณ์ ถ้วยชามไก่ ของเมืองลำปางจวบจนทุกวันนี้ค่ะ แน่นอนว่าดินที่ใช้ผลิตเครื่องปั้นดินเผาส่วนใหญ่เป็นดินขาวในพื้นที่จังหวัดลำปาง ในปัจจุบันก็ได้มีการนำดินชนิดอื่นจากในหลายพื้นที่มาเป็นส่วนผสมเพื่อคุณภาพของผลิตภัณฑ์เซรามิกที่ดี




ต้นกำเนิดชามตราไก่ เซรามิคลำปาง

 จากชาวจีนเมืองไท้ปูเพียงไม่กี่คนที่เดินทางรอนแรมมารวมเป็นหนึ่งในเชื้อชาติไทย พวกเขานำภูมิปัญญากว่าร้อยปีของการปั้น “ชามไก่” เข้ามาสู่เมืองไทย …50 กว่าปีที่ผ่านมาได้เกิดการแตกหน่อ แยกสาขาผ่านลูก ผ่านหลานไปจนถึงชาวบ้านท้องถิ่นเดิม จนกระทั่งกลายเป็นงานฝีมือที่คนไทยทั่วทั้งประเทศรู้จักดี เติบโตขึ้นเป็นโรงงาน ขยายตัวเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่โต สร้างอาชีพหลักให้แก่ชาวจังหวัดลำปาง ผลิตภัณฑ์ยุคใหม่ที่ชนรุ่นหลังปรับเปลี่ยนเพิ่มมูลค่ากันขึ้นมา และยังส่งออกนอกต่างประเทศทำเงินหลายพันล้านบาทต่อปีให้ประเทศไทย
ภควดี อาติกา ผูจก.โครงการ “กาดม่วนใจ๋” แหล่งใหญ่ที่ขายเซรามิกแก่คนทั้งประเทศ โดยสาวลำปางผู้นี้เป็นผู้พาเราชมตำนาน “นักปั้นดิน” ที่ถูกจารึกในประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งของชาวลำปาง และแม้ปัจจุบันก็ยังตกทอดสืบสานกันมาไม่เปลี่ยนแปลง และแนะนำให้รู้จักกับคุณป้าบุญสม หาญเมธี เถ้าแก่เนี้ยใจดี
ป้าบุญสม เล่าให้ฟังอย่างภาคภูมิใจว่า ตั้งแต่เปิดมาในปีพ.ศ.2540 กาดม่วนใจ๋น่าจะเป็นแหล่งขายเครื่องเซรามิคใหญ่ที่สุดแล้วในลำปาง นักท่องเที่ยวหรือกรุ๊ปทัวร์ที่ขึ้นไปเที่ยวยังจังหวัดเชียงใหม่ จะมาแวะซื้อเซรามิคที่ตลาดนี้เป็นของฝาก เธอเล่าด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม พร้อมกับเดินไปหยิบชามไก่รุ่นเก่าที่ยังมีวางขายในร้านมาโชว์ให้เราดูด้วย
ภควดี เล่าให้ฟังว่า สินค้าเซรามิคที่ขายอยู่ที่นี่ จะเป็นของที่ตระเวนไปหาซื้อมาจากโรงงานเซรามิคเกือบทุกแห่งในจังหวัด ซึ่งสินค้าทั้งหมดจะเป็นสินค้ามีตำหนิแต่คุณภาพดี ไม่ว่าจะเป็นโรงงานชาวบ้านธรรมดา หรือโรงงานเซรามิคขนาดใหญ่ที่มีกำลังการผลิตสูงและส่งออกสินค้าไปยังตลาดต่างประเทศ ดังนั้นสวรรค์ของนักซื้อถ้วยชามแห่งนี้ คงไม่ต้องเล่ารายละเอียดแล้วว่ามีอะไรบ้าง เพราะมีทุกอย่างที่ใช้เงินต่ำสุดเพียง 1 บาท ก็ได้เป็นเจ้าของเซรามิคชิ้นสวยไว้ในมือ


ทำไมจังหวัดลำปางกลายเป็นแหล่งผลิตผลิตภัณฑ์เซรามิกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ภควดี เกริ่นว่า เพราะลำปางมีแหล่งแร่สำคัญ คือ ดินขาว ทำให้ลำปางกลายเป็นเมืองเซรามิก
ย้อนเรื่องราวไปถึงบันทึกหน้าหนึ่งของประวัติศาสตร์สำคัญชาวลำปาง คือ การค้นพบแหล่งแร่ดินขาว ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ และกลายมาเป็นวัตถุดิบที่เป็นหัวใจของการผลิตสินค้าเซรามิกในเวลาต่อมาเรื่องราวนี้ เกิดขึ้นจากการสังเกตเรื่องเล็กๆของคนไม่กี่คนที่ได้เห็นวัสดุที่ใช้ลับมีดของชาวบ้านอ.แจ้ห่ม วัสดุชิ้นนั้นประกอบด้วยแร่ดินขาว
หลังจากนั้น นายซิมหยู แซ่ฉิน (ปัจจุบัน คือ โรงงานธนบดีสกุล) ชาวจีนเมืองไท้ปู (ในฮกเกี้ยน) เมืองที่มีชื่อเสียงทางด้านการผลิตถ้วยชาม ได้ชวนเพื่อนอีก 2 คน คือ นายเซี่ยะหยุย แซ่อื้อ (โรงงานไทยมิตรในปัจจุบัน) และ นายซิวกิม แซ่กว๊อก (โรงงานกฎชาญเจริญในปัจจุบัน) นำจักรยานคู่ชีพออกค้นหาแหล่งดินขาว โดยมี ทวี ผลเจริญ เถ้าแก่ในกทม.เป็นผู้ให้ทุนสนับสนุน จนประมาณปีพ.ศ. 2498 -2499 ทั้งสามคนจึงค้นพบแหล่งแร่ดินขาวที่หมู่บ้านปางค่า อ.แจ้ห่ม ระหว่างกม.ที่ 26 – 27 ถ.ลำปาง – แจ้ห่ม หลังจากนั้นจึงว่าจ้างคนลากเกวียน บรรทุกแร่ดินขาวมาทดลองปั้นถ้วยชามในโรงงานของ ซิมหยู และ ประยูร ภมรศิริ ผลที่ได้คือ พวกเขาค้นพบว่า ดินขาว มีความแข็งแกร่งและทนทานความร้อนได้สูง ให้คุณค่าของเนื้อผลิตภัณฑ์เป็นสีขาวสวยงาม
ข้อมูลจากจ.ลำปางระบุว่า ลำปางเป็นจังหวัดที่มีแร่ดินขาวมากที่สุดในประเทศถึง 65% รวมทั้งการผลิตผลิตภัณฑ์เซรามิกที่ใช้ดินขาวเป็นวัตุดิบมีสัดส่วนถึง 93 % ของมูลค่าการผลิตทั้งประเทศ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ถ้วยตราไก่” เมืองลำปาง ถ้วยตราไก่ เป็นถ้วยเก่าแก่ของลำปางรูปพรรณคล้ายๆ ชามก๋วยเตี๋ยว ข้างๆ ถ้วยจะเขียนเป็นรูปไก่ และนับเป็นถ้วยที่หาย...